Monday, February 27, 2006

My Journey




ฉันพาหัวใจเดินทางมาไกล ผ่านห้วงเวลาที่ความเงียบเหงาโบยตี ความโดดเดี่ยวอ้างว้าง สะดุดแข้งขาจนหกล้ม เพื่อค้นหาดินแดนแห่งนั้น ดินแดนที่ใครๆบอกว่ามันเต็มไปด้วยความสุข...ดินแดนแห่งความรัก... ดินแดนที่มีใครคนหนึ่งรออยู่ พร้อมรอยยิ้มที่เข้าใจ และอ้อมแขนที่อบอุ่น ฉันเดินมาจนล้า เจ้าหัวใจที่พามาเป็นเพื่อนเริ่มแห้งเหี่ยว ฉันได้แต่ปลุกปลอบกับใจ "เข้มแข็งเข้าไว้ อีกไม่เท่าไหร่ก็จะได้เจอ" กำลังใจนั้นเพิ่มขึ้นได้จากตัวของฉันเอง และความหวังที่จะได้พบดินแดนแห่งนั้น

และแล้ว ..วันนั้นก็มาถึง ภาพแรกช่างสวยงามดังภาพฝัน "ดินแดนแห่งนั้นแน่แล้ว เจ้าหัวใจ นี่ไงดินแดนที่เราตามหา" ฉันร้องบอกเพื่อนที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันด้วยความดีใจ อาการของหัวใจดูชุ่มชื่นขึ้นผิดหูผิดตา ใครคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายพร้อมรอยยิ้ม ยื่นมืออันอุ่นด้วยไอประหลาดบางอย่างที่เพียงแค่แตะกุม ก็เหมือนมีกระแสแห่งความสุขไหลผ่านไปทั่วร่าง "เค้าคนนั้นนั่นเอง" เราเดินจับมือกันท่องเที่ยวในดินแดนแห่งนั้นจนเพลิน เค้าพาฉันไปดูทุ่งดอกไม้แห่งคำหวาน มันสวยงามเสียจนฉันไปอากจะก้าวไปไหนต่อ ต่อมาคือลธารแห่งความห่วงใย น้ำไหลใสเย็นเป็นสีชมพูจางๆ ฉันตักขึ้นมาล้างหน้า มันสดชื่นกว่าที่คิด นี่ยังไม่นับที่อื่นๆ เช่น ต้นไม้แห่งการให้และรับ สายลมแห่งความคิดถึง และแสงแดดแห่งความอบอุ่น ฉันกอดเค้าแทนคำขอบคุณที่พาฉันมาพบกับสิ่งดีๆ ที่รอคอยมาตลอด ฉันเพิ่งสังเกตุเห็นว่าตอนนี้ เค้าเริ่มเดินเณ้วขึ้น อสงข้างทางเปลี่ยนไป ต้นไม้ทะมึนทึบน่ากลัว แสงสว่างเริ่มลอดผ่านลงมายากเต็มที ฉันเหนื่อย ไขว่คว้าหามือของเค้าคนนั้น ฉันเห็นมันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่เค้าก็เดินเร็วเกินกว่าที่ฉันจะคว้าแขนเค้าไว้ได้ทัน เสียงฝีเท้าของเค้ายังคงได้ยินอยู่ไม่ไกล ฉันลองเอื้อมมือคว้าอีกครั้ง ฉันสัมผัสมือนั้นได้ แต่ทำไมมันช่างเยียบเย็น ไม่เหมือนมืออุ่นๆที่คุ้นเคย เค้าสะบัดมือหลุดเพราะจังหวะการเดินที่ก้าวเร็ว ความมืดโรยตัวเข้ามาปกคลุมเส้นทางข้างหน้า แต่ฉันยังเห็นแผ่นหลังของเค้าคนนั้นอยู่ไม่ไกล " เดินเร็วเข้าสิ" ฉันบอกับตัวเอง มิพักถึงเจ้าหัวใจ ที่ตอนนี้มันเหนื่อยพอๆกับฉัน ไม่นานฉันรู้สึกว่าตัวเองตกวูบลงไปในหลุมแห่งอดีต อากาศข้างล่างช่างบางเบาทำฉันหายใจไม่ออก ฉันตะโกนเรียกเค้าเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทำไมเสียงฉันถึงได้เบาลงๆ ฉันนั่งหมดหวังอยู่ก้นหลุมอันน่าอึดอัด ซักพักเค้าก็ปรากฎตัวที่ปากหลุม เค้าบอกฉันว่า หลุมนี้ฉันเป็นคนขุดขึ้นจากอดีตของเค้า มันจะลึกลงเรื่อยๆ ถ้าฉันไม่ศรัทธาในความรัก "ฮ้า..แล้วอะไรคือความรักล่ะ ฉันยังไม่เข้าใจมันดีเลย" ฉันรู้สึกว่าหลุมนั้นเลื่อนลึกลงไปอีก ฉันเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาของฉันเริ่มท่วมหลุมนั้นขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่มีใครเลยจะช่วยฉันได้ ไม่มีเลย ฉันเกือบจมไปกับอดีตที่ฉันพยายามไม่รับรู้นั้น แต่ฉันก็พบว่ายิ่งทำใจให้ลืม มันยิ่งทำให้อยากรู้ให้ลึกขึ้น ฉันหมดหวัง ถ้าไม่ได้เจ้าหัวใจฉันคงตายอยู่ในนั้นแล้ว ตอนนี้เจ้าหัวใจแข็งแรงขึ้นมาก จนน่าแปลกใจ เจ้าหัวใจบอกฉันว่า "เรารักเท่าที่เราสามารถรักเค้าได้ก็พอ ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเค้าว่าเค้าจะให้เรามาเท่าไหร่ ถ้าเราทำดีที่สุดแล้วผลมันออกมาไม่ใช่อย่างที่เราคิด มันก็ไม่มีใครผิด เราอาจเสียใจแต่ ความรักคือการเสี่ยง คนที่เป็นสุขได้คือคนที่เข้าใจรัก และรู้จักรอ" ฉันไม่ร้องไห้อีกแล้ว อีกเพียงนิดเดียว ฉันก็จะขึ้นไปข้างบนได้อีกครั้ง ขาดแต่เพียงมืออุ่นๆมือนั้น ถ้าเพียงเค้าจะเอื้อมมือมาฉุดฉันให้พ้นจากความทรมานได้เร็วขึ้น...คงดี

ฉันไม่ร้องไห้เพราะคนเก่าของเธออีกแล้วจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะหัวใจของฉันแข็งแรงขึ้น, ฉันศรัทธาในความรักมากขึ้น หรือเพราะ...ฉัน...

4 Comments:

At 9:28 AM, Blogger Nimman~Radee said...

เขียนได้ดีนะ เห็นภาพเลย
การนำเรื่องราวของความรัก คนสองคน
ความสัมพันธ์ที่เราสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน
มาเรียงร้อยถ้อยคำให้ดูสวยหรูเเละมีศิลปะ
บรรยากาศและความรู้สึกของการได้เจอใครสักคนที่เราหวังว่าจะได้เดินไปด้วยกันอย่างมีความสุข คิดว่าได้เจอแล้ว

แต่ก็มีเงื่อนไขบางอย่างทำให้ความสุขนั้นเปลี่ยนแปลงไป
มันเป็นสัจธรรมหรือเปล่า มีใครที่ไม่เคยเจอความโหดร้ายของความสัมพันธ์ในมุมนี้ไหม
หรือเพียงแต่เราต้องยอมรับมันอย่างเข้าใจ
เพื่อที่จะไม่มีน้ำตา เพื่อที่จะดำรงอยู่ได้ - อย่างแข็งแรง

 
At 8:02 AM, Blogger Ploy said...

เราว่าไม่มีใครไม่เคยถูกความเปลี่ยนแปลงทำร้ายหรอก แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราพร้อมจะยอมรับมันมากแค่ไหน ซึ่งตอนนี้กำลังทำให้ได้อยู่

 
At 1:59 PM, Blogger Ploy said...

ว่าไม๊ ว่า...มันแฝงด้วยความคาดหวังอยู่

 
At 10:48 AM, Blogger Nimman~Radee said...

โลกนี้ล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

 

Post a Comment

<< Home